
วันที่น้องไปพบเจ้าหน้าที่ น้องควรจะแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ๆให้ไปพบโดยให้ปากคำเพิ่มเติมไปด้วยว่า
น้องไม่ยอมรับข้อกล่าวหาเพราะการออกมาเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่เป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ
ไม่ควรเป็นความผิดตามกฏหมายรองฉบับใดๆได้อีก.. เพราะการชุมนุมนั้นได้ทำตามสิทธิที่ระบุไว้ในกฏหมายรัฐธรรมนูญ คำสั่งประกาศสถานะการฉุกเฉิน พรบ.การชุมนุม พรบ.รักษาความสะอาด พรบ.ใช้เครื่องขยายเสียง พรบ.จราจร และทุกกฏหมายรองที่นำมาใช้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ชุมนุมนั้นขัดกฏหมายรัฐธรรมนูญ
และให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ที่ขอออกหมายเรียกเพิ่มเติมว่า ถ้ายังจะดำเนินคดีตามกฏหมายรองจริง ก็ขอให้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุนในวันนั้นในคดีเดียวกันให้ครบทุกคน
เพราะการฝ่าฝืนประกาศสถานะการฉุกเฉินเพื่อป้องกันโควิดไม่สามารถเป็นความผิดได้หากไปเพียงคนสองคน
ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่คนที่ไปขอหมายเรียกดำเนินการออกหมายเรียกและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ร่วมชุมนุมในวันนั้นให้ครบทุกคน
หากไม่ดำเนินการให้ครบจำนวนผู้ร่วมชุมนุมในวันนั้น ถือว่าดำเนินการนำส่งผู้กระทำความผิดไม่ครบถ้วน
โดยที่ขอให้นำตัวผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมดที่กระทำความผิดร่วมในวันนั้นมาแสดงตัวในวันฟ้องตดีให้ครบถ้วน
ประมาณห้าหมื่นคน... ในฐานะเป็นผู้กระทำความผิดร่วมทุกคน... และขอให้ดำเนินคดีกับห้างทุกห้าง รถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสารสาธารณะทุกสายที่มีผู้ใช้บริการแออัดอยู่บนรถและในห้างอันเป็นการจัดให้มีการชุมนุมในที่สาธารณะควรมีความผิดเช่นเดียวกัน
3 ความเห็น
ไอ้หมาต๋า
ลุงตู่ ผู้ที่ไม่ได้เคารพกฏหมายสูงสุด แถมเป็นคนฉีก รธน.ปี 50 ทิ้ง ตั้งตัวเป็นรัฐฐาธิปัตใหญ่กว่าในหลวง โทษถึงประหารชีวิต....
ออก กม.ตามใจชอบ
ใช้ กม.ตามใจชอบ
แปลความ กม.ตามใจชอบ
ตลอด 6 ปีกว่า ตู่เคารพ กม.ตรงไหน ถึงกล้ามาสอนให้คนอื่นเคารพ กม.
ทำตัวเป็น แม่ปูสอนลูกปู
แปลกใจ แต่หน้าไม่อาย